วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์

การเข้าหัว
RJ-45 มีได้ 2 แบบ คือ
nแบบ A (Standard 568A) มีการเรียงสายจากซ้ายไปขวา ดังนี้
nขาว/เขียว
nเขียว
nขาว/ส้ม
nน้ำเงิน
nขาว/น้ำเงิน
nส้ม
nขาว/น้ำตาล
nน้ำตาล
แบบ B (Standard 568B) เป็นแบบที่นิยมใช้กันมาก มีการเรียงสายจากซ้ายไปขวา ดังนี้
nขาว/ส้ม
nส้ม
nขาวเขียว
nน้ำเงิน
nขาว/น้ำเงิน
nเขียว
nขาว/น้ำตาล
nน้ำตาล
วิธีการเข้าหัวสาย UTP
n1. ปลอกที่หุ้มสายออกประมาณ 2-3 ซม.

2. เรียงสายทั้ง 4 คู่ให้ถูกต้องตามรูปแบบที่ต้องการ (A หรือ B) แล้วตัดให้สายทุกเส้นยาวเท่ากัน โดยให้ยาวออกจากที่หุ้มสายประมาณ 1.7 ซม.


3. สอดสายที่จัดเรียงเรียบร้อยแล้ว เข้าไปยังหัว
RJ-45 โดยใส่เข้าไปให้สุด และแน่นแล้วจึงใช้ที่เข้าหัวสายหนีบ เพื่อดันให้เข้าที่

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่าย

1. เครื่องทวนสัญญาณ (Repeater)
เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ขยายหรือเพิ่มระยะ ทางการสื่อสารของเครือข่ายในการส่งข้อมูลในระบบเครือข่าย
ตามมาตรฐานต่าง ๆ เช่น ในมาตรฐานการส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายใช้ 10BaseT ซึ่งมีข้อกำหนดของมาตรฐาน
การ เชื่อมต่อระบบได้ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร ถ้าความยาวของระบบมากกว่า 100 เมตร ต้องมีเครื่องทวนสัญญาณในการขยายสัญญาณ เพื่อให้เป็นระบบเครือข่ายเดียวกัน


เครื่องทวนสัญญาณ (Repeater)

2. บริดจ์ (Bridge)
เป็น อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระบบ LAN เข้าด้วยกัน โดยออกแบบมาเพื่อใช้ติดต่อระหว่างเครือข่ายท้องถิ่น LAN จำนวน 2 เครือข่าย ที่มีโปรโตคอลเหมือนกันหรือต่างกัน เพื่อให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN ออกไปได้ โดยประสิทธิภาพในทางรวมลดลงไม่มาก เนื่องจากการติดต่อของเครื่องอยู่ในเซกเมนด์เดียวกัน จะไม่มีการส่งผ่านต่างเซกเมนด์ (Segment)

ฮับ (Hub)

เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กระจายช่องทางการสื่อสารข้อมูลได้หลายช่องทางในระบบ เครือข่าย โดยการขยายสัญญาณที่ส่งผ่านมา ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านสายเคเบิลได้ใกล้ขึ้น และใช้กับระบบเครือข่ายแบบ Star ในปัจจุบัน Hub มีความเร็วในการสื่อสารแบบ 10 และ 100 Mbps ลักษณะการทำงานของ Hub จะแบ่งความเร็วตามจำนวนช่องสัญญาณ (Port) ที่ใช้งานตามมาตรฐานความเร็ว เช่น ระบบเครือข่ายใช้มาตรฐานความเร็วเป็นแบบ 10 Mbps และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อในระบบ 5 เครื่อง แต่ละเครื่องสามารถสื่อสารกันภายในระบบโดยใช้ความเร็วเท่ากับ 10/5 คือ 2 Mbps


ฮับ (Hub)

4. สวิตช์ (Switch)
สวิตซ์ หรือ อีเธอร์เนตสวิตช์ (Ethernet Switch) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กระจายช่องทางการสื่อสารข้อมูลหลายช่องทางในระบบ เครือข่าย คล้ายกับ Hub ต่างกันตรงที่ลักษณะการทำงานและความสามารถในเรื่องของความเร็ว การทำงานของ Switch ไม่ได้แบ่งความเร็วตามจำนวนช่องสัญญาณ (port) ตามมาตรฐานความเร็วเหมือน Hub โดยแต่ละช่องสัญญาณ (port) จะใช้ความเร็วเป็นอิสระต่อกันตามมาตรฐานความเร็ว เช่น ระบบเครือข่ายใช้มาตรฐานความเร็วเป็นแบบ 100 Mbps และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อในระบบ 5 เครื่อง แต่ละเครื่องก็จะสื่อสารกันภายในระบบโดยใช้ความเร็วเท่ากับ 100 Mbps


สวิตช์  (Switch)

5. เราท์เตอร์ (Router)
เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายต่างชนิดกัน หรือใช้โปรโตคอลต่างกัน เข้าด้วยกัน คล้าย ๆ กับ Bridge แต่ลักษณะการทำงานของ Router นั้นจะซับซ้อนกว่า เพราะนอกจากจะเชื่อมต่อแล้วยังเก็บสภาวะของเครือข่ายแต่ละส่วน (Segment) ด้วย และสามารถทำการกรอง (Filter) หรือเลือกเฉพาะชนิดของข้อมูลที่ระบุไว้ว่าให้ผ่านไปได้ ทำให้ช่วยลดปัญหาการจราจรที่คับคั่งของข้อมูล และเพิ่มระดับความปลอดภัยของเครือข่าย ซึ่งสภาวะของระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันนี้ Router จะจัดเก็บในรูปของตารางที่เรียกว่า Routing Table ซึ่งตาราง Routing Table นี้จะมีประโยชน์ในด้านของความเร็วในการหาเส้นทางการสื่อสารข้อมูลระหว่าง ระบบเครือข่ายโดยเฉพาะกับระบบเครือข่ายที่ซับซ้อนมาก ๆ เช่น ระบบ MAN, WAN หรือ Internet เป็นต้น

เราท์เตอร์ (Router)

6. เกตเวย์ (Gateway)
เป็น อุปกรณ์ที่ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่า ที่มีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถติดต่อกันได้เหมือนเป็นเครือข่ายเดียวกัน เปรียบเสมือนเป็นประตูทางผ่านในการสื่อสารข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ต่างชนิด กัน เช่น ระหว่างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไปกับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ หรือเมนเฟรม ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นต้น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway นั้นอาจจะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งทำหน้าที่ก็ได้

7. โมเด็ม (Modem)
เป็น อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณจากดิจิตอล (Digital) ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก (Analog) และจากสัญญาณอนาล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตอล โมเด็มเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ
ในการสื่อสารบนระบบเครือข่ายอินเตอร์ เน็ต เพราะโมเด็มทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณ
คอมพิวเตอร์ ให้เป็นสัญญาณที่อุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ในระบบเครือข่ายสามารถเข้าใจได้ หลังจากนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลต้องมีโมเด็มเพื่อแปลงสัญญาณจาก อุปกรณ์สื่อสารให้เป็นสัญญาณ
ที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ ซึ่งความสามารถของโมเด็มสามารถวัดได้จากความเร็วในการรับส่งข้อมูลจำนวน 1 บิตต่อ 1 วินาที (บิตต่อวินาที) หรือ bps (bit per second) ปัจจุบัน Modem มีสองประเภท คือ โมเด็มที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง (Internal Modem) และโมเด็มที่ไม่ได้ติดตั้งไว้ในเครื่อง (External Modem) ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม


โมเด็ม (Modem)

ระบบเครือข่ายอินทราเน็ต (Intranet) เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กร โดยการเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายท้องถิ่น หรือเครือข่ายแลน (LAN) หรืออาจจะเป็นเครือขายต่างท้องถิ่น หรือเครือข่ายแวน (WAN) และเป็นเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอล ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP) เป็นตัวเชื่อมโยงการสื่อสาร การสื่อสารบนเครือข่ายอินทราเน็ตที่สำคัญๆ ได้แก่ การสื่อสารระบบเว็บ (Web) การโอนย้ายไฟล์ (FTP) และระบบฐานข้อมูล (Database) อาจกล่าวได้ว่าอินทราเน็ต คืออินเตอร์เน็ตขนาดเล็ก เพราะซอฟต์แวร์ที่ใช้เพื่อการสื่อสารบนอินทราเน็ตจะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้บน อินเตอร์เน็ต รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่ายอินทราเน็ตก็มีการใช้แอพพลิเคชัน
เหมือน กับเซิร์ฟเวอร์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทุกประการ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

blog my friends!!

นายยุทธชัย หาไชย www.mememejung.blogspot.com
นายสุดที่รัก โพพนม www.tiruk15.blogspot.com
นางสาวกรรณิการ์ ฤทธฺิิ์์ิิิิรุ่งwww.Jukduy.blogspot.com
นางสาวนิตยา ศรีสิงห์ www.nittaya13.blogspot.com
นางสาวนุสบา ครุฑสุวรรณ www.nutsba.blogspot.com
นางสาวปัทมวรรณ ชีด้าม www.Patama13.blogspot.com
นางสาวพลับพลึง สังสนา www.newyear7134.blogspot.com
นางสาวสุชาดา โจ๊ะประโคน www.Dajung2010.blogspot.com
นางสาวอรุณรัตน์ ใหมคำ www.poopae555.blogspot.com
นายอภิลักษณ์ หม่อมพะเนาว์ www.Zoo-Ruk.blogspot.com
นางสาวประภัสสร ยาทองไชย www.praputson2.blogspot.com
นางสาวพรวิมล นามโต www.Namtho999.blogspot.com
นางสาววาสนา สันทัน www.Santan9899.blogspot.com
นางสาวเสาวลักษณ์ คำผุย www.Swlkksanpui.blogspot.com
นายอภิสิทธฺิ์์์์ บัวชิต www.apisit-loveyou.blogspot.com
นางสาวจันทร์มณี จรัสแสง www.Koonstitchclub.blogspot.com
นางสาวจิตหทัย แดนรักษ์ www.Thaicok.blogspot.com
นางสาวประภัสสร งามแสง www.Tangtonnalove.blogspot.com
นางสาวพิมพ์ภัค ไกรเกียรติสกุล www.Pimpakk486.blogspot.com
นางสาวสุภาพร เพ็ชรไชย www.petchai222.blogspot.com
นางสาวสุภาลัย วงไชยา www.kimhyonjung.blogspot.com
นางสาวสุรัสวดี โมครัตน์ www.surut16.blogspot.com
นางสาววรรณพร ตั้งซุยยัง www.forgetmenot_fernway.blogspot.com
นางสาวเกวลิน ศรีทิน www.sorry-lin.blogspot.com
นางสาวมินตรา ชีด้าม www.Mintra-abnormal.blogspot.com
นางสาวเสาวลักษณ์ หาไชย www.DowandMok.blogspot.com
นางสาวอารดา แฮนหลุน www.Cheesekra.blogspot.com
andtama.blogspot.com
นาง สาวขวัญใจ พรหมพิมพ์ www.pigred.blogspot.com
นางสาวปติณยา แฮนหลุน www.blogspot.com
นางสาวกัญญาวีร์ หลินภู www.tukinpo.blogspot.com
นาง สาวจริยา ซีด้าม www.Toulex5.blogspot.com
นางสาวณัฐพร ลอยพิลา www.loypila.blogspot.com
นางสาวสมพร เรืองจรัส www.kapook16.blogspot.com
นางสาวอมรรัตน์ วรพงษ์ www.Mayrrhung.blogspot.com
นายอธิวัฒน์ เปล่งศรี www.Bigbody11.blogspot.com

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มะขา
มงคล
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เช่น มะขามนี้ นอกจากจะให้ฝักเป็นของว่างรับประทาน ได้แสนอร่อยในหลากหลายรสชาติแล้ว มะขาม ยังเป็นไม้มงคล ที่คนไทยเรานิยมปลูกไว้หน้าบ้านมาช้านานแล้ว
เชื่อกันว่า ปลูกมะขามไว้หน้าบ้าน แล้วจะเป็นมงคล ใครๆ จะพากันเกรงขาม ครั่นคร้าม ไม่กล้ามาเกะกะระราน หรือคิดร้ายใดๆ
ผู้คนจะนิยมยกย่อง และคนในบ้าน ก็จะมีความปลอดภัยตลอดไปอีกด้วย





เคล็ดปฏิบัติ
การปลูกมะขามนั้น คนโบราณเชื่อกันว่า ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตกของตัวบ้าน แต่ถ้าหน้าบ้านหันเข้าหาทิศอื่น คุณก็สามารถปลูกมะขามไว้ด้านหน้าบ้านก็ได้ ถือว่าเป็นมงคลเช่นกัน เพียงแต่ตามตำราความเชื่อนั้น นิยมแนะให้ปลูกทางทิศตะวันตก แม้ว่าทิศนั้นจะอยู่ด้านข้าง หรือด้านหลังของบ้านก็ตามที
ควรให้ผู้ที่มีอาวุโสที่สุดในบ้าน เป็นผู้ลงมือปลูก และวันอันเป็นมงคล สำหรับการปลูกมะขาม คือ วันเสาร์และวันอาทิตย์

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553




พิกุลทอ
มงคล
คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “พูดน้อย เพราะกลัวว่า ดอกพิกุลทองจะร่วง” ซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยถึง คนที่พูดน้อยจนน่าใจหาย
ความจริงแล้ว ต้นพิกุลทอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ที่มีความแข็งแรงทนทาน และมีอายุยืนยาวชนิดหนึ่ง เลยทีเดียว
คนไทยเราเชื่อกันว่า ต้นพิกุลทองนั้น เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตย์ของเทพเจ้า ดังนั้น หากนำเนื้อไม้ มาทำเป็นข้าวของต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มความขลัง และเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้พ้นภัยอันตรายต่างๆ ไม่สามารถจะเข้ามาทำร้ายได้
คนโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นพิกุลทองเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะทำให้คนในบ้านมีอายุยืน มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีความทรหดอดทน เหมือนกับความแข็งแกร่งของต้นพิกุลทอง





เคล็ดปฏิบัติ
ผู้ที่เหมาะจะลงมือปลูกต้นพิกุลทอง คือ สุภาพสตรี เพราะชื่อของต้นไม้นั้น อ่อนหวาน งดงาม เหมาะจะให้ผู้หญิง เป็นฝ่ายปลูก มากกว่าผู้ชาย
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เหมาะที่จะทำการปลูกต้นพิกุลทอง เพราะจะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่บ้านเรือน และสมาชิกทุกคนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
ควรลงมือปลูกต้นไม้ชนิดนี้ในวันเสาร์ เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเพิ่มมงคลให้แก่บ้านนั้น ควรจะปลูกในวันเสาร์ ต้นไม้นั้น จึงจะมีพลังเต็มเปี่ยม

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


ข้าวกล่องแฟนซี



ส่วนผสม

ข้าวกล้องหอมมะลิ 1 ถ้วย

ไก่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

แครอท มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ อย่างละ 2 ช้อนชา

ต้นหอมซอยละเอียด 1 ช้อนชาไข่ไก่ 1 ฟอง

เนย 1 ช้อนชา

สาหร่าย 1 ช้อนชา


วิธีการทำ
1.ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่เนย แครอทและหอมหัวใหญ่ลงไปผัดพอนิ่ม

ตามด้วยไก่สับละเอียด และมะเขือเทศ 2.ตอกไข่ลงไปผัดกับส่วนผสมในกระทะพอ

เข้ากัน

ตามด้วยข้าวกล้องที่เตรียมไว้

ปรุงรสด้วยซอสเหยาะจิ้มตราแม็กกี้ ใส่ต้นหอม

ผัดพอเข้ากันแล้วตักขึ้นพักไว้
3.นำข้าวกล้องผัดมาใส่พิมพ์รูปต่างๆ

นำมาจัดเรียงในกล่อง ตกแต่งให้สวยงาม

ตกแต่งด้วยสาหร่าย